วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2554

รับอาหารไทย"พล่าปูนิ่ม"ซักที่ไหมครับ?

เมื่อวันก่อน  พอดีผมได้ปูนิ่มมา(ข้างบ้านซื้อมาฝากครับ อิอิ) ก็เลยลองหาดูว่าพอจะทำเมนูอาหารไทยอะไรใหม่ๆได้บ้างจากเจ้าปูนิ่มนี้   หาไปหามาก็โป๊ะเชะเลยครับ  หลังจากพยายามใช้ความสามารถทำอาหารไทยเมนูนี้เสร็จแล้ว  กินดูเห็นว่ารสชาติมันเข้าท่าทีเดียว  ก็เลยนำสูตรอาหารมาฝากทุกๆคนครับ  อ้อ!ลืมบอกไปเมนูอาหารนี้มีชื่อว่า "พล่าปูนิ่ม"ครับ     มีวัตถุดิบดังนี้



ปูนิ่ม 1 ตัว 
หอมแดงซอย 1 หัว 
ต้นหอมซอย 2 ต้น 
ใบมะกรูดซอย 2 ใบ 
ตะไคร้ซอย 3 ต้น 
พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด 
สะระแหน่ 1 ต้น 
น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ 
น้ำมะนาว / น้ำปลา / น้ำมะขาม อย่างละ 1 ช้อนชา



วิธีทำ 

 1.ขั้นตอนแรกคือ  แบ่งปูนิ่มเป็น6ส่วน  แล้วนำไปคลุกเคล้ากับแป้งสาลี  ทอดด้วยไฟปานกลางจนเหลืองกรอบแล้วนำมาพักไว้
2.ต่อไปเราก็มาทำน้ำพล่ากันครับ  โดยปรุงด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำมะขาม คลุกผสมเข้าด้วยกันตามด้วยหอมแดงซอย ต้นหอมซอย ใบมะกรูดซอย และผักชีฝรั่ง
3.จัดจานโดยนำถั่วฝักยาวและผักกาดมาเรียงให้สวยงาม  น้ำปูนิ่มมาวาง แล้วราดด้วยน้ำพล่าที่เตรียมไว้
ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่  พริกชี้ฟ้า นิดหน่อย แค่นี้ก็โอ้ว!!!พร้อมเสิร์ฟแล้วจ้า!!!

ลองไปทำดูนะครับกับอาหารไทยจากปูนิ่มเมนูนี้  รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน.......




วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2554

อาหารไทยต้องลอง"หอยแมลงภู่ผัดน้ำพริกเผา"

อาหารไทย"หอยแมลงภู่ผัดน้ำพริกเผา"

สวัสดีครับ  วันนี้ตั้งใจไว้ว่าจะแนะนำอาหารไทยประเภทที่ทำจากอาหารทะเลกันซักหน่อย  พอดีเห็นว่าเมนูอาหารไทย"หอยแมลงภู่ผัดน้ำพริกเผา"นี้น่าสนใจดี  ก็เลยนำสูตรวิธีทำมาฝากกันครับ

ส่วนประสม
* หอยแมลงภู่ 450 กรัม (ล้างและทำความสะอาด) 


* น้ำตาล 1 ช้อนชา 


* น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ 


* ใบโหระพา 1/2 ถ้วยตวง 


* น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ 


* พริกชี้ฟ้าหั่นตามยาว 4 เม็ด 


* กระเทียมสับ 2 ช้อนชา 


* น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 


วิธีทำ
1.ต้มน้ำให้เดือดครับ จากนั้นก็นำหอยแมลงภู่ลงไปลวก  ไม่ต้องสุกมากเท่าไหร่นะครับเพราะเราต้องนำไปผัดต่อ  เสร็จแล้วก็นำมาสะเด็ดน้ำ
2.ตั้งกะทะแล้วเติมน้ำมันลงไป   จากนั้นก็นำกระเทียมลงไปผัดจนเหลืองได้ที่ 
3.ใส่เจ้าหอยพระเอกหอยแลงภู่ลงไปผัดเล่นในกะทะสักครู่  จากนั้นจึงปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล พริกและพริกเผา
4.ใส่ใบโหระพาลงไปผัดเสริมประมาณ10 วินาที  เสร็จแล้วปิดไฟตักใส่จาน และแล้วก็พร้อมเสิร์ฟแล้วสำหรับอาหารไทยเมนูที่ชื่อว่า "หอยแมลงภู่ผัดน้ำพริกเผา"

ขอบอกได้เลยล่ะครับว่าถ้าได้รับประทานอาหารไทยรสโอชะขนาดนี้ ต้องขอข้าวสวยร้อนๆเพิ่มแน่นอนครับ(555)

   

วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ข้าวซอย อาหารไทยประจำวันหยุดของผม

ตักเส้นบะหมี่ใส่ชาม ราดด้วนน้ำแกงข้าวซอย ใส่เครื่องเคียง โรยด้วยบะหมี่ทอดกรอบ ใบผักชี และหัวกะทิ จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ
          นานๆจะถึงวันหยุดพิเศษของผมซักที วันนี้ก็เลยขอนอนตื่นสายหน่อย   หลังจากอะไรๆเข้าที่เข้าทางแล้วก็ถึงเวลาอาหารเช้าเสียที  ผมเดินไปเปิดหาอะไรในตู้เย็นดูก็ปรากฏว่าไม่มีอะไรนอกจากไก่กับเส้นบะหมี่ แล้วยังงี้มันจะไปทำอาหารไทยเมนูอะไรได้หน้อ  นั่งใช้ความคิดอยู่นาน..... ประมาณ5นาทีก็ปิ๊งไอเดียว่า วันนี้ขอกินอาหารไทยภาคเหนือดีกว่า นั่นคือเมนูอาหาร   "ข้าวซอย"

ข้าวซอยเนี่ยถือว่าเป็นอาหารไทยจานเด็ดของทางภาคเหนือเค้าเลยนะครับ  ตอนผมไปเยี่ยมคุณลุงที่จังหวัดลำปางประมาณปีก่อน เมียแกทำให้ลองชิมดูสุดยอดครับ พูดแล้วรสชาติยังติดอยู่ในปากอยู่เลย(อะไรจะขนาดนั้น...)    ผมจึงไม่รอช้าเตรียมตัวเตรียมใจเข้าครัวเพื่อเมนูอาหารไทยจานนี้โดยเฉพาะเลย!

เอาล่ะครับเมื่อทุกคนพร้อมแล้ว  เรามาทำข้าวซอยสูตรเฉพาะกันเถอะ(หิวแล้ว)

เครื่องปรุงข้าวซอย เส้นบะหมี่ เนื้ออกไก่ น้ำพริกแกงเผ็ด ของ ผักกาดดอง กะทิ หอมแดง
เครื่องปรุงข้าวซอยเนื้อไก่ 400 กรัม
เส้นบะหมี่ 1 ห่อ
ผักกาดดอง 1 ห่อ
น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
ผงกะหรี่ 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
ขิง ¼ ถ้วย
หัวหอมแดง ¼ ถ้วย
ผักชี 1 ต้น
กะทิ 1 กระป๋อง
น้ำเปล่า 3 ถ้วย
น้ำมันสำหรับทอด ½ ถ้วย
น้ำมันสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำข้าวซอย หั่นไก่เป็นชิ้นพอประมาณ โขลกขิงให้ละเอียดแล้วจึงนำน้ำพริกแกงเผ็ดใส่ลงไปโขลกให้เข้ากันวิธีทำน้ำแกงข้าวซอย1. นำเนื้อไก่มาล้างให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นขนาดพอประมาณ จากนั้น ปลอกเปลือกขิง นำไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วจึงนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ลงไปในครกโขลกให้ละเอียดแล้วจึงนำน้ำพริกแกงเผ็ดใส่ลงไปโขลกให้เข้ากัน


วิธีทำข้าวซอย ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน ผัดน้ำพริกแกงที่โขลกไว้จนหอม ใส่ไก่ที่หั่นไว้ลงไป ผัดจนไก่เริ่มสุก ใส่ผงกะหรี่ คลุกเคล้าให้เข้ากัน2. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ รอจนน้ำมันเริ่มร้อนก็ใส่น้ำพริกที่โขลกไว้ลงไปผัดจนน้ำพริกเริ่มหอม จากนั้นใส่ไก่ที่หั่นไว้ลงไป ผัดจนไก่เริ่มสุกก็โรยผงกะหรี่ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน


วิธีทำข้าวซอย ใส่หัวกะทิ ผัดและใส่กะทิลงไปเรื่อยๆ จนไก่สุก จึงใส่กะทิลงไปจนหมด3. ค่อยๆ ใส่หัวกะทิลงไป (แบ่งหัวกะทิไว้ประมาณ ¼ ถ้วย สำหรับโรยหน้าตอนเสริฟ) ผัดและใส่กะทิลงไปเรื่อยๆ จนไก่สุก จึงใส่กะทิลงไปจนหมด

วิธีทำข้าวซอย เคี่ยวน้ำแกงต่อไปประมาณ 10 นาที ก็เติมน้ำเปล่าลงไป จากนั้นจึงปรุงรส รอจนน้ำแกงเดือดอีกครั้งก็ปิดเตาได้


4. เคี่ยวน้ำแกงต่อไปประมาณ 10 นาที ก็เติมน้ำเปล่าลงไป จากนั้นปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว (หรือน้ำปลา) และน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ รอจนน้ำแกงเดือดอีกครั้งก็ปิดเตาได้


วิธีเตรียมเครื่องเคียงข้าวซอย นำหัวหอมแดงมาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ ส่วนผักกาดดองนำมาซอยเป็นชิ้นเล็กๆ วิธีเตรียมเครื่องเคียงข้าวซอย1. ปลอกเปลือกหัวหอมแดง นำไปล้างน้ำให้สะอาด นำหัวหอมแดงมาหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ ส่วนผักกาดดองนำมาซอยเป็นชิ้นเล็กๆ 


วิธีเตรียมเครื่องเคียงข้าวซอย ต้มผักกาดดองประมาณ 10 นาที เทน้ำออก สะเด็ดน้ำ เติมน้ำส้มสายชูประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วพักไว้

2. เปิดเตาที่ไฟแรง ตั้งกระทะใส่น้ำเปล่าลงไปประมาณ 3 ถ้วย ต้มจนน้ำเดือด จึงเอาผักกาดดองที่หั่นไว้ใส่ลงไปต้มผักกาดดองประมาณ 10 นาที ก็เทน้ำออก สะเด็ดน้ำขึ้นมาใส่ชาม เติมน้ำส้มสายชูประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วพักไว้



วิธีเตรียมเครื่องเคียงข้าวซอย ต้มบะหมี่จนเส้นสุก ตักขึ้นล้างด้วยน้ำเย็น สะเด็ดน้ำ แล้วคลุกด้วยน้ำมันประมาณ 2 ช้อนโต๊ะเพื่อไม่ให้เส้นติดกันเป็นก้อน พักไว้3. เปิดเตาที่ไฟแรง ตั้งกระทะใส่น้ำเปล่าลงไปประมาณ 5 ถ้วย ต้มจนน้ำเดือด จึงนำเส้นบะหมี่ใส่ลงไป(ก่อนใส่เส้นให้กระจายเส้นออกจากกันก่อน) ต้มจนเส้นสุก ก็ตักขึ้นล้างด้วยน้ำเย็น สะเด็ดน้ำ แล้วคลุกด้วยน้ำมันประมาณ 2 ช้อนโต๊ะเพื่อไม่ให้เส้นติดกันเป็นก้อน พักไว้

วิธีเตรียมเครื่องเคียงข้าวซอย ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน รอจนน้ำมันร้อนก็ใส่พริกป่นประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ลงไปผัดประมาณ 1 นาที ปิดเตาและตักพริกผัดใส่ถ้วยพักไว้

4. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปประมาณ 3 ช้อนโต๊ะรอจนน้ำมันร้อนก็ใส่พริกป่นประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ลงไปผัดประมาณ 1 นาที ปิดเตาและตักพริกผัดใส่ถ้วยพักไว้



วิธีเตรียมเครื่องเคียงข้าวซอย ทอดบะหมี่จนเหลืองกรอบแล้วจึงตักขึ้นมาวางบนกระดาษซับน้ำมัน พักไว้5. เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปประมาณ ½ ถ้วย รอจนน้ำมันร้อนก็ใส่บะหมี่ประมาณ ½ ก้อนลงไปทอดจนบะหมี่เหลืองกรอบ ปิดเตาและตักบะหมี่ขึ้นมาวางบนกระดาษซับน้ำมันและพักไว้


วิธีเตรียมเครื่องเคียงข้าวซอย นำหัวกะทิไปเข้าไมโครเวฟประมาณ 1 นาที เด็ดผักชีเป็นใบๆ เตรียมไว้สำหรับโรยหน้า6. หัวกะทิ ¼ ถ้วยที่แบ่งเอาไว้ ให้นำไปเข้าไมโครเวฟประมาณ 1 นาที และล้างผักชีให้สะอาด เด็ดเป็นใบๆ เตรียมไว้สำหรับโรยหน้า




วิธีเสิร์ฟตักเส้นบะหมี่ที่ลวกไว้ใส่ชาม ตักน้ำแกงข้าวซอยราดลงบนเส้น ใส่ผักกาดดองซอยและหัวหอมแดงหั่นเต๋า โรยด้วยบะหมี่ทอดกรอบ ใบผักชี และหัวกะทิ จากนั้นก็ยกเสิร์ฟพร้อมมะนาวและพริกป่นผัดน้ำมันได้เลย



เป็นไงครับ  ง่ายและน่าอร่อยมากเลยใช่ไหมครับ  สำหรับเมนูอาหารไทย"ข้าวซอย"นี้   ยังไงก็อย่าลืมลองไปทำรับประทานดูบ้างนะครับ  ส่วนตัวผมของตัวหม่ำให้หนำใจก่อนนะครับ........











 Thanks for image : U Can Cook Thai. 


วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ข้าวมันส้มตำ ดีกรีอาหารไทย"งานบุญ"

อาหารไทย  "ข้าวมันส้มตำ"

หลายคนอ่านแล้วอาจจะงงๆซักหน่อย หากเป็นคนภาคกลางแท้ล่ะก็ผมว่าต้องร้องอ้อแน่ทีเดียวเชียว  ทำไมน่ะเหรอครับ   ก็เพราะเจ้าเมนู"ข้าวมันส้มตำ"เนี่ย  เค้าเป็นอาหารไทยประจำงานบุญงานกุศลของภาคกลางกันเลยทีเดียว!   อะไรจะขนาดนั้น  แต่ขอบอกไว้ก่อนนะครับว่าส้มตำในเมนูอาหารไทยข้าวมันส้มตำเนี่ย มันคนละอย่างกับไอ้ที่เรารับประทานกันกับข้าวเหนียวและไก่ย่างทั่วไปนะครับ  เพราะว่ามันจะไม่ใส่มะเขือเทศ  ไม่ใส่ถั่วลิสง  ไม่ใส่ถั่วฝักยาว และนิยมรับประทานกับเนื้อฝอย แนมกับยอดมะยม ผักกาดขาว หรือใบชะพลูก็ดูจะเข้าท่าไม่น้อย    ส่วนการหุงข้าวมันจะใช้การหุงด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้า หม้อธรรมด๊าธรรมดา หรือใช้การนึ่งแทนก็ได้  แต่ผมว่า การนึ่งมันจะใช้เวลานานกว่าวิธีอื่นซักนิดหน่อยนะครับ

เอาล่ะหลังจากเกริ่นอาหารไทยเมนูนี้มาพอหอมปากหอมคอกันแล้ว  เราไปปดูเครื่องปรุงและวิธีทำกันเลยดีกว่าครับ

1.ทำข้าวมันกันก่อน
วิธีทำ
ข้าวมัน ซาวข้าวสาร 1 ครั้ง (ใช้ข้าวเสาไห้ 500 กรัม ) แล้วใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ หลังจากนั้น ก็คั้นมะพร้าวขูด 500 กรัม ให้ได้กะทิ 4+1/ 2 ถ้วย แล้วผสมกับน้ำตาล 2 - 3 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ คนให้น้ำตาลละลาย กรองด้วยผ้าขาวบาง ใส่ข้าวสาร กะทิ ลงหุงในหม้อหุงข้าวไฟฟ้า เมื่อหุงได้ 10 - 15 นาที ให้ใช้ไม้พายคนข้าวเพื่อไม่ให้กะทิติดเป็นก้อน หุงต่อจนข้าวสุก 



2.ทำส้มตำกันต่อเลยครับผม
เครื่องปรุงสำหรับทำส้มตำ

มะละกอดิบสับเป็นเส้นเล็ก ๆ 5 ถ้วย กุ้งแห้งป่น 1/ 4 ถ้วย มะนาวหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ 3 ช้อนโต๊ะ พริกแห้งแกะเมล็ดออกแช่น้ำ 3 เม็ด พริกขี้หนูสด 5 เม็ด กระเทียมแกะเป็นกลีบ 6 กลีบ พริกไทยป่นนิดหน่อย น้ำตาลปีบ 2 - 3 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 - 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 2 - 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
โขลกมะละกอเบา ๆ พอช้ำ ตักขึ้น แล้วพักไว้ จากนั้นโขลกพริกแห้ง กระเทียม พริกไทย ให้ละเอียด ใส่พริกขี้หนู บุบพอแตก ตักขึ้นพักไว้ แล้วผสมมะขามเปียก น้ำตาล น้ำปลา เข้าด้วยกันในหม้อ ตั้งไฟพอเดือด ยกลง ปล่อยให้อุ่น ใส่น้ำมะนาว คนให้เข้ากัน ใช้เป็นน้ำปรุงรส แล้วจึงละลายเครื่องพริกแห้งที่โขลกไว้กับน้ำปรุงรส เข้าด้วยกัน แล้วเทใส่ชามมะละกอ ใส่กุ้งแห้ง มะนาวหั่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน 


3.สุดท้ายต่อด้วยการทำเนื้อฝอย

วิธีทำเนื้อฝอย
ล้างเนื้อเค็ม 250 กรัมให้สะอาด นำไปนึ่งประมาณ 15 นาทีให้สุก นำมาทุบให้นุ่ม แล้วฉีกเป็นฝอย ๆ พักไว้ จากนั้นใส่น้ำมัน 1 ถ้วยลงในกระทะ ตั้งไฟพอร้อน ใส่หอมแดงซอย 2 - 3 ช้อนโต๊ะ เจียวให้เหลือง ตักขึ้น ใส่เนื้อเค็มแกฝอย คั่วไฟอ่อนให้เหลือง จึงตักขึ้น แล้วล้างกระทะให้สะอาด ยกขึ้นตั้งไฟอีกครั้ง ใส่น้ำตาลปีบ 1/ 4 ถ้วย น้ำ 2 - 3 ช้อนโต๊ะ คนให้น้ำตาลละลาย ตั้งไฟเคี่ยวให้เหนียว ใส่เนื้อฝอยลงผัด ให้น้ำตาลเกาะทั่ว ตักขึ้น โรยด้วยหอมเจียว เป็นอันเสร็จ 


เอาล่ะครับแค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว  สำหรับอาหารไทยที่มีชื่อว่า  "ข้าวมันส้มตำ"  ที่เหลือก็แค่ลองชิมความอร่อยที่เราทำกับมือแค่นั้นเอง... 




   

คุยกันก่อนกับ"บล็อกเกอร์อาหารไทย"

[DSCF0901.JPG]


สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ  ผมOnemanhandsome บล็อกเกอร์ประจำบล็อกแนะนำอาหารไทย "Thaifoodhub"แห่งนี้  ผมเคยเขียนบล็อกมามากมายครับ เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ    นี้เป็นครั้งแรกที่ผมเขียนเรื่องเกี่ยวกับอาหารไทย   ความประทับใจที่ผมมีต่ออาหารไทยคือ  "รสชาติ"นั่นเองครับ ผมกล้าบอกได้เลยว่าอาหารไทยนั้นมีเอกลักษณ์ทางรสชาติที่อร่อยมาก  ใครได้ลองชิมแล้วรับรองว่าจะต้องติดใจกันไปทุกราย   แม้แต่ชาวต่างชาติเค้าก็ยังออกปากชื่มชมเลยว่าอาหารไทยเนี่ยอร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ      ด้วยการที่เลือดแห่งความเป็นชาติไทยคุกรุ่น(อิอิ) และการที่โดยส่วนตัวแล้วก็ชื่นชอบเมนูอาหารไทยเป็นชีวิตจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นเมนูอะไร ของภาคไหนก็ถูกใจผมทั้งหมด  ก็เลยตั้งใจจะทำบล็อกสักเรื่องที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอาหารไทย  เพื่อเป็นการแบ่งปันความรู้ให้กับผู้อ่านที่สนใจได้รู้กัน     ขอให้ทุกคนติดตามผลงานของผมกันไปนานๆนะครับ(555+)  รักน้อยแต่รักนานๆ       เรื่องราวจะเป็นเช่นไร(พูดเหมือนละครเลย...)
"ก็ลองดู" ครับ